icon facebook  icon twitter 
  • สินค้าของบริษัทมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ
  • โครงการตอบแทนสังคม
  • ทุกกระบวนการผลิตมีการใส่ใจคุณภาพ
  • บุคลากรมีความเชี่ยวชาญ ไม่หยุดยั้งในการพัฒนา
  • นำนวัตกรรมใหม่ๆมาเสริมคุณภาพ และคำนึงถึงความละเอียดอ่อนในเรื่องการผลิต
  • เพิ่มพูนศักยภาพของบุคลากร

PDPA

 

ประกาศ

เรื่อง การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เกี่ยวข้องเฉพาะส่วนก่อนกฎหมายใช้บังคับ

บริษัท ที.โอ.เคมีคอลส์ (1979) จำกัด ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนได้เสียกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท จึงได้กำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการสื่อสารชี้แจง ทำความเข้าใจแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ กับบริษัท

                    ทั้งนี้ บริษัท ได้กำหนดมาตรการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ มาก่อนที่กฎหมายจะมีผลใช้บังคับให้สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ดังนี้       

                    ข้อ 1. บรรดาข้อมูลส่วนบุคคลทุกประเภทที่ บริษัท ได้ทำการเก็บรวบรวม และใช้มาก่อนวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 บริษัทจะยังคงเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทได้เคยขอความยินยอมไว้ตามวัตถุประสงค์อันจำเป็นต่อการบรรลุถึงวัตถุประสงค์แห่งการดำเนินธุรกิจ การเข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจต่อไปภายในเงื่อนไขระยะเวลาที่บริษัทกำหนดไว้ กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์จะยกเลิกการให้ความยินยอม สามารถติดต่อได้ ที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ โทรศัพท์ 02-2756053-9

                    ข้อ 2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และการดำเนินการอื่นที่มิใช่การเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตาม ที่กำหนดไว้ในข้อ 1. บริษัทจะดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายโดยเคร่งครัด

                    ข้อ 3. ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง สามารถศึกษาข้อมูล รายละเอียดของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ที่ www.togroupthailand.com

การดำเนินการของผู้มีส่วนได้เสียในการดำเนินธุรกิจของบริษัท จะดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายโดยเคร่งครัด

ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

 

นายวรเทพ กรอนันต์สิริและนายจิรวิร์ ปวิตรปก

ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ



ประกาศ

 นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. หลักการทั่วไป  

               1.1 ความทั่วไป

               บริษัท ที.โอ.เคมีคอลส์ (1979) จำกัด สำนักงานใหญ่และสาขา, บริษัท ที.โอ.ฟาร์ม่า จำกัด, บริษัท ที.โอ.แลบ จำกัด, บริษัท ที.โอ.เมด จำกัด และ บริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด (“บริษัท”) ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ จึงได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลด้วยระบบปฏิบัติงาน และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย มีความมั่งคงปลอดภัยต่อการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนั้นยังจัดให้มีระบบการตรวจสอบการเข้าถึงและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ตลอดจนจัดให้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดเก็บ การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำให้ระบบมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ ป้องกันไม่ให้มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล

               เอกสารฉบับนี้ได้อธิบายถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผย ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่ง บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทรวบรวมไว้ สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

               เอกสารฉบับนี้เป็นเอกสารระดับนโยบายของบริษัท ดังนั้นบรรดาประกาศ ระเบียบ ข้อกำหนดใด ๆ ที่ขัดหรือไม่สอดคล้องกับเอกสารฉบับนี้ ให้ใช้ข้อความในเอกสารฉบับนี้ทั้งหมดตั้งแต่วันที่เอกสารฉบับนี้มีผลใช้บังคับตลอดไป

               เอกสารฉบับนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานบริการต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งอาจแก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงนโยบายนี้โดยจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

1.2 คำจำกัดความ

               เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ และไม่ให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการตีความของคำบางคำในเอกสารฉบับนี้ บริษัทจึงได้จัดทำคำจำกัดความไว้ ดังนี้

               “บริษัท” หมายถึง บริษัท ที.โอ.เคมีคอลส์ (1979) จำกัด สำนักงานใหญ่และสาขา, บริษัท ที.โอ.ฟาร์ม่า จำกัด, บริษัท ที.โอ.แลบ จำกัด, บริษัท ที.โอ.เมด จำกัด และ บริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด และให้หมายรวมถึงบุคคลคนเดียวหรือหลายคนที่ได้รับมอบหมายให้มีอำนาจกระทำการแทน

               “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

               “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ตามมาตรา 26 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

               “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคล

            “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

               “คู่ค้า” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งรวมถึงบุคคลเดียวหรือหลายคนซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหรือได้รับมอบหมายให้กระทำการแทนนิติบุคคลเพื่อเข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจ กับบริษัท ในฐานะ คู่ค้า ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ ผู้ขายสินค้า ผู้ให้บริการ ผู้เช่าอาคารสถานที่ และให้รวมถึงบริวารหรือบุคคลที่คู่ค้าได้มอบหมายให้ติดต่อกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์แห่งหรือเกี่ยวเนื่องกับการทำสัญญาทางธุรกิจนั้น ๆ       

1.3 ความเกี่ยวข้อง

               บริษัทจะพิจารณาอย่างรอบคอบในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เกี่ยวข้องภายใต้วัตถุประสงค์แห่งการดำเนินธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุดังต่อไปนี้

               1.3.1 เป็นไปตามบทบัญญัติที่กฎหมายกำหนด

               1.3.2 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับ บริษัท

               1.3.3 เป็นความจำเป็นนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเป็นไปเพื่อสวัสดิการหรือประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยิ่งกว่า การเป็นคู่สัญญาทั่วไป

2. หลักการรวบรวมข้อมูลอย่างจำกัด

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

               นโยบายฉบับนี้จะใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม รวมถึงกรณีที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับ บริษัท ดังนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ลายมือชื่อ ลายนิ้วมือ เลขบัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ ข้อมูลทะเบียนบ้าน หมายเลข   ใบประกอบการ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ เลขที่บัญชีธนาคาร เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ สถานภาพสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ทะเบียนรถ ภาษาพูด ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถ เป็นต้น

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ ไอดีไลน์ เป็นต้น

               (ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ข้อมูลความเห็นทางการเมือง ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ประวัติการถูกลงโทษทางวินัย เป็นต้น

2.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

               2.2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

               แม้ว่าบริษัทจะสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะที่เป็นคู่สัญญาโดยตรง หรือเป็นผู้ที่ต้องกระทำการแทนนิติบุคคล หรือผู้รับมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจในการเข้าทำนิติกรรมเป็นคู่สัญญา ได้โดยไม่ขอความยินยอมตามหลักการขอความยินยอมของกฎหมายก็ตาม บริษัทก็ยังคงรักษาไว้ซึ่งการมีส่วนร่วม โดยจะจัดให้ผู้มีส่วนร่วมที่เกี่ยวข้องได้รับทราบโดยชัดแจ้งว่า คู่สัญญาจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะที่จำเป็นในการเข้าเป็นสัญญาในฐานะคู่สัญญาที่บริษัท และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องของนิติกรรมหรือสัญญานั้น ๆ นอกเหนือจากที่ได้กำหนดไว้แล้ว บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้

               (ก) การเก็บรวบรวมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

               (ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

               (ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้า         ทำสัญญาใด ๆ กับบริษัท

               (ง) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้รับมอบให้แก่บริษัท

               (จ) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือ บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ บริษัท เว้นแต่ประโยชน์ ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิ ขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

               (ฉ) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

               2.2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

               บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

               (ก) ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม

               (ข) เป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ยินยอมโดยชัดแจ้งให้ไว้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดเพื่อเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว

               (ค) ในกรณีที่บริษัท จำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

               (ง) ในกรณีที่บริษัทจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงาน การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ หรือประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข รวมถึงให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การศึกษาวิจัยทางสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น และให้รวมถึงกรณีที่มีการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ ซึ่ง บริษัท ได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

2.3 การเก็บรวบรวม และการได้รับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทยึดมั่นตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น เว้นแต่กรณีจำเป็นที่เจ้าของข้อมูลไม่อาจหรือไม่ได้เป็นผู้ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น ทั้งนี้จะเป็นไปเฉพาะแต่กรณีที่ บริษัท ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น โดยทั่วไปกรณีที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรงและจากแหล่งอื่น ได้แก่

               2.3.1 ผู้สมัครงาน หรือพนักงาน

               (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ หรือโรคประจำตัวของผู้สมัครงานที่บริษัทกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าทำงานกับ บริษัทในฐานะลูกจ้าง ทำการตรวจสุขภาพของตนเองก่อนเข้าทำงาน โดยให้สถานพยาบาลที่ทำการตรวจสุขภาพส่งผลการตรวจให้แก่บริษัท

               (ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประวัติการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หรือประวัติอาชญากรรม โดยบริษัทอาจกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าทำงานรายหนึ่งรายใดหรือตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมหรือยินยอมให้บริษัททำการตรวจประวัติอาชญากรรมแทนพนักงานและยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวมไว้ได้ตามระยะเวลาที่บริษัทกำหนด

               (ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประวัติการทำงานก่อนหน้าที่จะทำงานกับบริษัท โดยได้กำหนดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งก่อนทุกครั้ง โดยบริษัท จะแจ้งการให้ความยินยอมให้แก่บุคคลภายนอกนั้น ๆ ทราบล่วงหน้าก่อนการส่งข้อมูลดังกล่าวมายังบริษัท

               2.3.2 คู่ค้า

               กรณีที่คู่ค้า ได้มอบหมายให้บุคคลคนเดียวหรือหลายคน ต้องติดต่อกับ บริษัทเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด เงื่อนไขของการเป็นคู่สัญญา ไม่ว่าจะในฐานะผู้ขาย ผู้ซื้อ ผู้ให้บริการ ผู้แทน ผู้จัดจำหน่าย ในนามบริษัท ซึ่งกำหนดมาตรฐานความสามารถของบุคลากรที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ ให้สามารถให้บริการหรือตอบสนองต่อการใช้สินค้าหรือบริการ บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเช่นว่านั้นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เอกสารฉบับนี้ หรือตามเงื่อนไขของสัญญานั้น ๆ

3. หลักการระบุวัตถุประสงค์

               บริษัทกำหนดวัตถุประสงค์อันจำเป็นของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันกับการให้บริการ สิทธิประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล แยกตามประเภทของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ดังนี้

3.1 ผู้ถือหุ้น ประธานกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจกระทำการในนามบริษัท

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น ประธานกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจกระทำการในนามบริษัท เพื่อประกอบธุรกิจด้านการวิจัย และพัฒนายารวมถึงการผลิตยาแผนปัจจุบัน และได้มีการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา บริษัทมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในแต่ละช่วง

บริษัท และบริษัทในเครือ มีการเติบโตทางธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องโดยได้ขยายขอบเขตการให้บริการที่กว้างขึ้นตามประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น

3.2 พนักงาน บุคคลในครอบครัว

               บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในขอบเขต โดยใช้เป็นทิศทางในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และควบคุมการปฏิบัติงานภายในบริษัท เพื่อเป็นแนวปฏิบัติของพนักงานทุกคน ให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการคุ้มครองและป้องกันให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด

               สำหรับบุคคลในครอบครัวของพนักงาน บริษัท จะพิจารณาเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์กรณีที่คุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน สวัสดิการของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ที่จะไดรับของบุคคลในครอบครัว

3.3 คู่ค้า

               บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า ซึ่งครอบคลุมในกรณี

1. เพื่อประโยชน์ของการประกอบพิจารณา การเปิดลูกค้าใหม่ในการตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคล เช่น ข้อมูลทะเบียนนิติบุคคล

2. การประมวลผลข้อมูลเพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น เพื่อยืนยันตัวตนและตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อคัดเลือกคู่ค้าหรือผู้ให้บริการ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท

3. ใช้ประกอบเป็นหลักฐานการรับ-จ่ายเงินทางบัญชีเพื่อพิสูจน์ตัวตนผู้รับเงินได้ ตามบทบัญญัติแห่ง (ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (18))

4. หลักการใช้ข้อมูลอย่างจำกัด และการจัดการข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมก่อนที่กฎหมายใช้บังคับ

               บริษัท จะพิจารณาอย่างรอบคอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างจำกัดภายใต้ขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ

               นอกเหนือจากการคำนึงถึงความเห็นส่วนตัวและสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบกับบัญญัติ กฎระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนดของทางราชการที่เกี่ยวข้องบริษัทจะพิจารณาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์หรือตอบสนองผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะคู่ค้า ผู้รับบริการ ขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์อย่างจำกัด เพื่อการดังต่อไปนี้

               (1) ติดต่อเพื่อตอบคำถามจากลูกค้า คู่ค้า

               (2) การจำหน่าย การให้บริการแก่คู่ค้า การจัดการด้านอาคารเพื่อความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย

               (3) การจัดการและการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในฐานะคู่สัญญากับ บริษัท

               (4) การวิจัยตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่

               (5) การแนะนำข้อเสนอทางการตลาด การสื่อสารทางการตลาด

               (6) วัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อต่าง ๆ ข้างต้น หากต้องได้มาหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัท จะขอความยินยอมก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด

               อย่างไรก็ตาม บรรดาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่บริษัทได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ รวมถึงการเปิดเผยมาไว้ก่อนที่กฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลใช้บังคับ บริษัท จะทำการเก็บรวบรวม และใช้ตามวัตถุประสงค์เดิมที่ บริษัท เคยแจ้งและขอความยินยอมตามวิธีทางธุรกิจที่ บริษัท ได้ปฏิบัติต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก่อนที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับต่อไปตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในเอกสารฉบับนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในเรื่องระยะเวลา แต่หาก บริษัท จะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่เคยแจ้งวัตถุประสงค์ไปก่อนหน้านี้แล้ว บริษัท จะยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ

5. หลักการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

5.1 การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบเอกสาร (Manual)

               บริษัท จะดำเนินการรวบรวม จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีขอบเขตจำกัด และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และให้เจ้าของข้อมูลทราบหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลตามแต่กรณี ข้อมูลดังกล่าวจะได้รับการตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูล และปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

วิธีการรับ-ส่ง ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ต้องปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติงานตามที่ บริษัทกำหนด เช่นการจัดเก็บเข้าตู้เอกสาร และล็อคกุญแจ หรือใส่ตู้เซฟ เป็นต้น

5.2 การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Document)

การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ตามที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการเอกสารถูกจัดเก็บเอาไว้ในฐานข้อมูลสามารถนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ช่วยในการค้นหาเอกสารให้ง่ายสะดวกและช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสาร โดยการทำงานของรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์

ทางบริษัท ใช้มาตรการ Access Control คือ กระบวนการที่ช่วยควบคุมสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากร เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาลบ แก้ไข หรือขโมยข้อมูลไปใช้จนเกิดความเสียหายกับข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่กำหนดว่าใครคือผู้ที่จะสามารถเข้ามากระทำการใด ๆ ภายในเครือข่ายหรือพื้นที่ขององค์กรได้ และสามารถระบุว่าบุคคลเหล่านั้นจะเข้าถึงทรัพยากรใดได้บ้าง     

               ระบบสามารถกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลให้แต่ละ user ได้ ผู้ใช้งานเมื่อได้รับสิทธิ์เข้าใช้งานระบบโดยทำการล็อคอิน (Login) เข้าสู่ระบบผ่านโปรแกรมการประยุกต์   ในขณะเดียวกันระบบก็จะตรวจสอบผู้ใช้

6. หลักการเปิดเผย

               บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลต่าง ๆ ตามที่ระบุด้านล่างนี้

6.1 บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบกิจการเพื่อประโยชน์ในการรวบรวมประวัติการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งบริษัทจะเปิดเผยเฉพาะเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือเฉพาะแต่ข้อมูลส่วนบุคคลอันจำเป็นต่อการดำเนินการเท่านั้น

6.2 หน่วยงานราชการตามที่บริษัทต้องปฏิบัติตามประกาศ หลักเกณฑ์ บทบัญญัติของกฎหมาย ได้แก่ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร กรมการจัดหางาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมที่ดิน กรมการปกครอง

6.3 พันธมิตรของบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นที่มีข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับบริษัท เช่น สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัย สถานพยาบาล บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน เพื่อประโยชน์และสวัสดิการให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

6.4 ผู้ที่ให้บริการด้านวิชาชีพ ได้แก่ ที่ปรึกษาด้านการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาระบบคุณภาพ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน

6.5 ผู้ที่ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดเก็บข้อมูล ผู้ให้บริการคลาวด์

6.6 ผู้ให้บริการด้านการตลาด การจัดทำข้อมูลในเชิงสถิติ การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสาร

6.7 บุคคลอื่นใดที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแล หรือคำสั่งของหน่วยงานตุลาการให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

6.8 ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่จากบริษัท ในกรณีที่บริษัทประสงค์จะโอนสิทธิ และหน้าที่ของบริษัท รวมถึงการโอนกิจการบางส่วนหรือทั้งหมดการควบรวมกิจการ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท บริษัทจำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับโอน (รวมถึงผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้รับโอน) โดยสิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฯ ฉบับนี้ด้วย

7. หลักการมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล

นอกเหนือจากสิทธิพื้นฐานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อันได้แก่ สิทธิในการรับแจ้งข้อมูล สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล สิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูล สิทธิในการขอลบข้อมูล สิทธิในการจำกัดการให้ข้อมูล สิทธิในการได้รับได้รับแจ้งเตือน ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิด้านต่าง ๆ สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล สิทธิที่จะปฏิเสธการให้ใช้ข้อมูล สิทธิที่ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบการตัดสินใจดำเนินการอัตโนมัติ แล้ว เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล  ยังมีสิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ ได้แก่

7.1 การให้ความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ บริษัท ร้องขอ และยินยอมให้ บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ เพียงแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องรับทราบว่า การให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ หรือการไม่ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เลยหากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน

7.2 การเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น หรือขอให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าของข้อมูลเองหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (หากข้อมูลดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้) รวมทั้ง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังสามารถขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ

7.3 การคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บ ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากข้อมูลนั้นบริษัทจัดเก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน หรือข้อมูลนั้นเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการตลาดแบบตรง หรือการเพื่อการศึกษาวิจัย

7.4 การลบ ทำลาย หรือระงับการใช้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรักษาไว้ หรือให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพิกถอน หรือคัดค้าการเก็บใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือเมื่อบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

7.5 การแก้ไข เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.6 การถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ แต่การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อกรเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านต่อไปได้

               ในการใช้สิทธิของท่าน ท่านรับทราบว่าสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ข้างต้น เป็นสิทธิที่มีข้อจำกัดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และบริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านหากบริษัทมีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าว

               อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ ย่อมจำกัดไว้แต่เพียงแต่การให้บริการพื้นฐานที่ไม่ทำให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเกิดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น หากการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เกี่ยวข้องได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องรับผิดชดใช้คืนเงินค่าดำเนินการต่าง ๆ ที่มีการขอใช้สิทธิเช่นว่านั้น

8. หลักการความรับผิดชอบ

8.1 ระยะเวลาที่ บริษัท จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

               นอกจากจะมีการระบุไว้เป็นการเฉพาะตามที่กฎหมายกำหนดไว้ บริษัท จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ นับจากที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าวสิ้นสุดนิติสัมพันธ์กับ บริษัท เว้นแต่กรณีเป็นความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้หรือการโต้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การบังคับคดี การวางทรัพย์ หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ

8.2 ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

               หากท่านประสงค์จะติดติดต่อบริษัทเพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยอื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัท ได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล            

               บริษัท ที.โอ.เคมีคอลส์ (1979) จำกัด

               สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 280,280/1-11,280/14-16 ซอยสบายใจ

   ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

               ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ โทรศัพท์ : 0-2275-6053-9

                                            

                              ให้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

                                                            ประกาศมา ณ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2565


นายวรเทพ กรอนันต์สิริและนายจิรวิร์ ปวิตรปก

 

ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ

 

 
บริษัทในเครือ ที.โอ. กรุ๊ป                T.O jpg     logo to p      logo to L        logo to M      logo medica